เมื่อเครียดที่สุด ทำไมจำต้องดูหนัง? ถ้าเกิด

ก่อนที่ผมจะเรียนหรือสนใจในเรื่องจิตวิเคราะห์ ทัศนคติ ตั้งใจจริง ผมก็เป็นเพียงแค่คนหนึ่งที่ชอบสังเกต แล้วก็เป็นคนที่มีความตึงเครียด (หนักๆ) อยู่เหมือนกัน แม้จะน้อยครั้ง แต่ว่านิสัยที่ไม่ค่อยปรึกษาคนไหน ถูกใจแอบคิดหาทางออกคนเดียวเสมอๆจนกระทั่งบางโอกาสมันใช้เวลาหลายวัน นับว่าทำให้สุขภาพเกี่ยวกับจิตห่วยไปตอนหนึ่งได้ จนกระทั่งวันหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินจ่ายตลาดเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้างฯ แต่ว่าในหัวก็กำลังคิดหนัก เครียดกับปัญหาที่ยังคิดไม่ตก ก็ได้ผ่านหน้าโรงหนังแห่งหนึ่ง เกิดอะไรบันดาลใจบางอย่างให้ซื้อตั๋วหนังเข้าไปดูผู้เดียวด้วยอารมณ์กำกวมๆกับตัวเอง

หนังประเด็นนั้นมิได้ให้คำตอบอะไรกับสิ่งที่กำลังคิด หรือเครียดอยู่(จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) แต่ว่ามันกลายเป็นว่าพอเพียงหนังจบ ทั้งหมดทุกอย่างดูเบาลง เท่าที่คิดออกในตอนนั้นเหมือนจะปล่อยวางบางสิ่งบางอย่างลงไป รู้สึกศึกษาและทำการค้นพบทางออกโดยบังเอิญ จากวันนั้นเมื่อใดรู้สึกเครียด ก็เลยใช้วิธีนี้เรื่อยมา หรือคิดอะไรไม่ออก ก็หยุดหาหนังมอง ทว่าสิ่งหนึ่งที่ผมอาจผิดแผกแตกต่างเป็น เวลาดูหนัง ส่วนใหญ่จะเป็นคนค่อนข้างตั้งมั่นมอง แล้วก็มักจะหยุดพึงพอใจเรื่องอื่นๆไปเลย แล้วสนใจ (Focus) แต่ว่าหนังที่ดูนั้น

เมื่อเครียดที่สุด ทำไมจะต้องดูหนัง?

ถ้าดูแบบรู้เรื่องตอนนี้ มันก็ไม่ต่างกับการคิดแบบง่ายๆโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีอะไรเลยเป็น การที่พวกเราได้หยุดจากใดๆก็ตาม มันก็เหมือนการได้พัก เมื่อได้พักมันก็จะมีแรงที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เว้นแม้กระทั้งสมอง ความนึกคิด จิตใจ ดังต่อไปนี้จะพูดว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นการดูหนังก็ได้ เพียงแต่การดูหนังมันมีเนื้อหาจุดเด่นอยู่ (เว้นเสียแต่ ว่าเป็นคนรังเกียจดูหนัง) ยกตัวอย่างเช่น หากเทียบกับการฟังเพลง การฟังเพลงนั้นใช้เพียงแค่ประสาทหู ยิ่งเพลงที่ฟังบ่อยๆเราอาจคุ้นชินจนกระทั่งไม่ได้ฟังมันจริงๆโน่นย่อมได้โอกาสให้ความคิดวนกลับไปเรื่องเดิมๆหรือเพลงบางเพลง มีรายละเอียดมิได้ช่วยทำให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างคนกำลังเครียดเนื่องจากว่าอกหัก ยิ่งฟังเพลงอกหัก ก็ยิ่งตอกตนเองให้จมไปในที่เดิมฯลฯ แต่ว่ากับหนังหรือภาพยนตร์เราใช้อีกทั้งตาดู หูฟัง ร่างกายได้พัก สภาพแวดล้อมย่อมจำต้องอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ไม่มีอะไรรบกวน รวมทั้งยิ่งเป็นหนังที่คิดติดตามไปกับเรื่องทำให้พวกเราลืมเรื่องอื่นๆไปได้ชั่วครั้งชั่วคราวเป็นอย่างดี

You may also like